รู้ตัวเองก่อน ว่าต้องการอะไรจากการคุยกับ AI | ปัญหาที่ต้องการแก้คืออะไร อยากได้คำตอบหน้าตาแบบไหน เป็นภาพมั้ย เป็นไอเดียมั้ย เป็นบทหนังมั้ย เป็นการปลอบใจมั้ย นึกให้ออกว่าเราอยากได้อะไรจากมัน

คุยกับมัน ให้เหมือนเวลาแนะนำตัวหน้าห้องเรียนสมัยเด็ก คืออธิบายตัวเอง เป้าหมายของตัวเอง ให้อยู่ในข้อความเดียว AI จะได้เข้าใจว่าคุณอยากให้ช่วยแก้ปัญหายังไง

ตัวอย่างโครงสร้าง
‍
[เล่าปัญหาคร่าวๆ]
‍
บทบาท:
[สิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น ก่อนที่จะเริ่มคุยกับมัน]

หน้าที่:
[สิ่งที่คุณอยากให้มันทำเป็นข้อๆ]

ผลลัพธ์ที่อยากได้:
[บอกคำตอบคร่าวๆที่คุณต้องการ]

ข้อมูลเพิ่มเติม:
[ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นกับปัญหานี้มาเป็นข้อๆ]

ผมกำลังพยายามทำธุรกิจขายอาหารตามสั่งให้ยอดขายเพิ่มขึ้น

บทบาท:
ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ให้คำปรึกษาที่ตรงประเด็นในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลและออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับปัญหาออกมา

หน้าที่:
1. วิเคราะห์สถานการณ์จากข้อมูลอย่างละเอียดในทุกๆแง่ของธุรกิจ
2. สรุปปัญหาและสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ออกมาเป็นข้อๆ
3. สร้างกลยุทธ์ถัดไปสำหรับแก้ปัญหานี้
4. ทำ KPI สำหรับกลยุทธ์ดังกล่าวที่ควรจะทำต่อไปใน 3 เดือน

ผลลัพธ์ที่อยากได้:
1. ทำสรุปปัญหาเป็นสไตล์เลขา เข้าใจง่าย ไวๆ
2. KPI ต้องออกมาเป็นตาราง ที่มีคอลัมที่เข้าใจง่ายและมี metric ในการวัดผลครบทุกแง่มุม

ข้อมูลเพิ่มเติม:
1. ธุรกิจเกี่ยวกับ:
[ร้านอาหารตามสั่ง และมีบริการ delivery]
2. ขายให้ใคร:
[ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน เพราะขายหน้าโรงเรียน]
3. คู่แข่งคือใคร :
[มีร้านอาหารตามสั่งอีก 6 ร้านละแวกเดียวกัน]
4. ปัญหาที่หนักที่สุดตอนนี้คืออะไร:
[อยากเพิ่มรายได้ ตอนนี้ขายได้แค่วันละ 2000 บาท]

สรุปปัญหา (แบบเลขา)

1. ยอดขายต่ำ: รายได้เฉลี่ยวันละ 2,000 บาท ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มกำไรหรือขยาย

2. ธุรกิจการแข่งขันสูง: มีร้านอาหารตามสั่งใกล้เคียง 6 ร้าน ต้องหาจุดเด่นเพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง

3. กลุ่มเป้าหมายจำกัด: ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน อาจมีกำลังซื้อต่ำและมื้ออาหารจำกัดช่วงเวลา (พักเที่ยง/หลังเลิกเรียน)

4. การตลาดยังไม่เพียงพอ: ยังไม่มีการใช้กลยุทธ์ออนไลน์ที่ชัดเจน เช่น การโปรโมทผ่าน Social Media หรือการใช้โปรโมชั่นดึงลูกค้า

กลยุทธ์ถัดไป
‍1. พัฒนาจุดขาย (Unique Selling Point - USP)
- เพิ่มเมนูอาหารราคาประหยัด (เช่น ชุดอาหารว่าง 35 บาท)
- พัฒนาเมนูที่ดึงดูดกลุ่มนักเรียน เช่น เครื่องดื่มราคาถูกหรือขนม
-เสริมใช้วัตถุดิบที่เน้นสุขภาพหรือความแปลกใหม่ (เช่น อาหารฟิวชัน)

‍2. ขยายฐานลูกค้าโปรโมทร้านในชุมชนใกล้เคียง
เช่น ผู้ปกครอง/ครูเพิ่มโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่
เช่น "ซื้อครบ 50 บาท ฟรีเครื่องดื่ม"
ทำโปรแกรมสะสมแต้มสำหรับนักเรียน (ซื้อครบ 5 มื้อ รับฟรี 1 มื้อ)

‍3. ปรับปรุงบริการ Delivery
‍ใช้แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ เช่น Grab หรือ LINE MAN
เพิ่มค่าจัดส่งต่ำสำหรับพื้นที่ใกล้โรงเรียน

ทำเมนูเฉพาะสำหรับ Delivery เช่น ชุดคอมโบลดราคา

‍4. การตลาดออนไลน์สร้างเพจ Facebook และ TikTok เพื่อโปรโมทร้านทำคลิปวิดีโอสนุกๆ หรือเมนูขายดีประจำวันเพื่อดึงดูดนักเรียนลงโฆษณาในพื้นที่ใกล้โรงเรียนด้วยงบประมาณต่ำ